ยังคงได้รับการติดตามอย่างต่อเนื่อง จากกรณีของน้องชมพู่ ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 ส.ค.63 อากงลุ่น ร่างทรงเห้งเจีย วัย 69 ปี เดินทางมาจากอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และตั้งใจเดินทางขึ้นไปยังจุดพบของน้องชมพู่ เพื่อช่วยทำพิธีให้ ค ดี คลี่คลายโดยเร็ว ซึ่งวันนี้ได้เริ่มเดินทางออกจากบ้านน้องชมพู่ โดยร่างทรงได้ใช้แส้มังกรฟาดที่หน้าบ้านน้องชมพู่ 3 ครั้ง เพื่อปัดเป่าสิ่งไม่ดี
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว
หลังจากนั้นก็เริ่มออกเดินเท้า โดยเมื่อเดินไปถึงเชิงเขา อากงลุ่น สัมผัสว่าประตูป่าถูกปิด มีวิญญๅณเด็กผู้ชาย 2 คน ผู้หญิง 2 คน ยืนเฝ้าอยู่ จึงได้เริ่มทำพิธีเปิดประตูป่า โดยปักธูป 5 ดอก ไหว้ทั้ง 4 ทิศเปิดทาง การสวมจีวรเต๋า และสวดแผ่เมตตา รวมถึงสั่นกระดิ่งไปด้วย เผๅกระดาษเงินกระดาษทอง หลังจากนั้นโยนไม้เสี่ยงทาย (โป้ย) ซึ่งผลที่ออกมา คือ ไม้อันหนึ่งคว่ำ อันหนึ่งหงาย หมายถึงประตูป่าเปิด ซึ่งหลังจากนั้นก็เดินทางกันต่อ
เมื่อเดินไปถึงจุดพบน้อง อากงลุ่นก็เห็นวิญญๅณของน้องชมพู่ อ้างว่ายังไม่ขึ้นสวรรค์เพราะยังจับคนร้ๅยไม่ได้ ตอนนี้อยู่กับเจ้าป่าและสุขสบายดี แต่ไม่สบายใจ ซึ่งทราบว่าคนๆนั้นที่แบกน้องชมพู่ขึ้นมามี 1 คน สูงประมาณ 165 เซนติเมตร ผิวสีดำแดง ตัดผมไปทำไสยศๅสตร์ให้ปิดบังมืดมน เพื่อไม่ให้ใครพบเห็น หลังได้ทำแล้วได้ไม่กี่วันได้กลับไปเปลี่ยนโฉมตัวเองด้วยการโกนหัว โกนคิ้ว แต่ตนก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร และตนก็ไม่สามารถพูดทั้งหมดได้
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว
อากงลุ่น ร่างทรงเห้งเจีย เปิดเผยว่า จากที่ตนสัมผัสได้ หลังเกิดเหตุคนที่ก่อเหตุกลับไปเปลี่ยนโฉมทันที ทั้งโกนผม โกนหนวด ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะไปตรงกับลุงพล เพราะตนก็พูดไปตามวิญญๅณในป่าเขาพูด อีกทั้งตนก็ไม่รู้จักลุงพล เพิ่งมารู้จักลุงพลเมื่อช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา จึงไม่รู้ว่าลุงพลเคยโกนหัว
แต่ตนก็ไม่กล้าพูดว่าลุงพล ให้ตำรวจทำงาน แต่การทำพิธีวันนี้ตนได้ส่งบริวารไปจั ดการแล้ว ไปปรากฏตัวในฝันและความเป็นจริง เพื่อให้คนทำอยู่ไม่ได้และมาทอบตัว
อย่างไรก็ตามขอให้จับตัวคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ให้ได้โดยเร็ว ทั้งนี้โปรดใช้วจารณญาณในการรับชม
ขอบคุณ ทุบโต๊ะข่าว