เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ชาวเน็ตต่างให้ความสนใจกันเป็นจำนวนมาก กลายเป็นกระแสที่ผู้คนต่างให้ความสนใจ สำหรับเรื่องของน้องชมพู่ พื้นที่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ผ่านไปกว่า 4 เดือน ยังมืดมนไร้คำตอบ ว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ และกลายเป็นว่าทุกคนในหมู่บ้าน รวมทั้งบุคคลใกล้ชิด ตกเป็นผู้ต้องสงสัยไปทั้งหมด ห้วงเวลาการคลี่คลายของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมการเกาะติดของสื่อ
น้องชมพู่
ได้เกิดปรากฏการณ์พลิกผัน จากเรื่องราวความเศร้ า กลายเป็นเวทีแจ้งเกิดของ ลุงพล หรือนายไชย์พล วิภา ซึ่งเป็นลุงของน้องชมพู่ หนึ่งในผู้ต้องสงสัย กลับโด่งดังราวกับ ซุป’ตาร์ มีแฟนคลับจำนวนมาก และงานโชว์ตัวแบบแพ็กคู่กับ ป้าแต๋น ยิ่งไปกว่านั้นยังร่วมร้องเพลง เต่างอย กับนักร้องหมอลำชื่อดัง จินตหรา พูนลาภ
เมื่อมีคนรักก็ต้องมีกลุ่มเห็นต่างในทางตรงกันข้าม เกิดกระแสให้พูดถึงมากมายในเชิงลบกับ ลุงพล จนเกิดแฮชแท็กติดเทรนด์ทวิตเตอร์ แบนลุงพล มีการร่วมรณรงค์ไม่ซื้อสินค้า หรือบริการใดๆ ที่ลุงพลเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพราะลุงพลยังตกเป็นผู้ต้องสงสัยในเรื่องน้องชมพู่ เหมือนการนำชื่อน้องชมพู่มาหากิน ซึ่งไม่เหมาะสม
จากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในกรณี ลุงพล ไม่ต่างกับ ครูปรีชา ในเรื่องลอตเตอรี่ 30 ล้าน เพราะได้กลายเป็นคนดัง เป็นที่รู้จักของคนในสังคม ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นผู้ต้องหาหรือไม่ ในมุมมองของ ดร.ภูษิต วงศ์หล่อสายชล รองคณบดีฝ่ายบริหาร วิทยาลัยผู้ประกอบการ มหาลัยหอการค้าไทย โดยต้องบอกว่า ลุงพล มีความสามารถไม่แพ้คนจบด้านการตลาดระดับปริญญาเอกเลยทีเดียว ในเรื่องมาร์เก็ตติ้ง เดอะซีรีส์
ถือเป็นวิธีการตลาดที่มีจังหวะจะโคน เริ่มจากคนไทยมีความที่สงสาร ชอบคนจริงใจใสซื่อ จากที่ลุงพลเป็นผู้ต้องสงสัยในเรื่องน้องชมพู่ได้ออกมาปรากฏตัวจนทำให้ผู้คนขุดคุ้ยประวัติต่างๆ และไม่พบประวัติน่าสงสัย นอกจากรูปภาพในอดีตที่หน้าตาดี ทำให้คนคิดว่าลุงพลน่าจะเป็นคนดี อีกทั้งคนไทยชอบคนซื่อๆ ใสๆ ซึ่งเป็นคุณสมบัติของลุงพล
จากเดิมลุงพลเป็นคนที่น่าสงสัยในเรื่องของน้องชมพู่ แต่ปัจจุบันกลายเป็นคนดี อีกทั้งสื่อจำนวนมากนำเสนอข่าวอย่างต่อเนื่อง เป็นตัวส่งผลทำให้คนอยากรู้เรื่องราวลุงพล หากไม่ติดตามเรื่องนี้ก็จะเป็นคนเชย อีกอย่างคนส่วนใหญ่ชอบเรื่องไม่มีแก่นไม่มีสาร ชอบเรื่องเบาสมอง ชอบดูละครน้ำเน่า ทำให้เรื่องลุงพลกลายเป็นซีรีส์ จนคนคาดไม่ถึงในที่สุด และลุงพล เป็นเหมือนสินค้า
โดยสื่อทุกสื่อพร้อมใจสร้างมูลค่า นำมาซึ่งผลประโยชน์ และโฆษณาต่างๆ ก็ตามมา หากจัดการให้ดี สร้างกระแสทุกวัน แม้แต่นั่งกินข้าวผ่านช่องทางยูทูบ ก็มีคนติดตามดูเหมือนเป็นดาราคนหนึ่ง
ส่วนกระแสความดังของ ลุงพล จะอยู่ได้นานหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการสนับสนุนจากคนรอบข้าง หากคนรอบข้างยังสนับสนุนอยู่ก็มีโอกาสอยู่ได้นาน และตรงกันข้ามกับกลุ่มคนที่ไม่ชอบ ลุงพล หากกระแสแรงมาก มีการจัดการไม่ดี อาจทำให้อยู่ได้ไม่นาน หรือความดังของ ลุงพล อาจเกิดจากความบังเอิญ หรือเกิดจากความสามารถจากการมีโอกาสและจังหวะก็อาจเป็นไปได้ ซึ่งไม่ต่างกับหลายคนที่โด่งดังขึ้นมา
สรุปแล้วทุกอย่างบนโซเชียลมีเดีย อะไรต่อมิอะไรก็เกิดขึ้นได้ตลอด สามารถหยุดให้คนหันมาสนใจได้ จากหลักการตลาดที่ต้องจ่ายเงินเพื่อสร้างแบรนด์ให้คนเห็นสินค้า กลับกลายเป็นไม่ต้องจ่ายเงินก็ได้ อย่างกรณีลุงพล คนชอบความใสซื่อ จนกลายเป็นลุงพล เดอะซีรีส์ จากผู้ต้องสงสัยกลายเป็นซุปตาร์ หรือละครน้ำเน่ า คนชอบต่อว่าละครอะไร แต่ก็มีคนชอบดูเป็นจำนวนมาก ต่างกับละครดีๆ มีสาระ คนกลับดูน้อย
อย่างไรก็ตามในเรื่องของน้องชมพู่ ที่ยังไม่สามารถปิดได้ แต่คนส่วนมากกลับสนใจเรื่องของลุงพลมากกว่า ทำให้หลายคนไม่พอใจเป็นอย่างมาก
ขอบคุณ ปูรณิมา