สาวเกาหลี เขียนจดหมาย 200 ฉบับ ตามหาน้องชายเป็นเวลา 34 ปี

เรียกได้ว่าการต้องแยกจากเป็นเวลาหลายปี พลัดพรากไปกันคนละที่คนละทางเป็นหนทางอันยาวไกลนั้นมันเป็นความรู้สึกที่ยากจะอธิบายได้จริงๆ เช่นเดียวกับเรื่องราวต่อไปนี้ เมื่อสื่อต่างประเทศรายงานว่า มีพี่น้องชาวเกาหลีคู่หนึ่งถูกพ่อทุบตีทำร้ายร่างกาย และยิ่งกว่านั้นเมื่อรุ่งเช้าของปี 1984 ก็ถูกพ่อยัดท้ายรถ จากนั้นขับไปปล่อยทิ้งไว้ที่ถนนแห่งหนึ่งกรุงโซลเพื่อละทิ้ง พ่อวางแผนจะปล่อยพี่น้องคู่นี้ทิ้งไว้คนละที่ เพื่อไม่ให้ตามหากันพบ จนกระทั่งทั้งสองถูกส่งตัวไปยังสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าในที่ต่างกัน


สาวสัญชาติเกาหลีที่ต้องพลัดถิ่น

เรนนีที่โตมาอย่างมีคุณภาพด้วยพ่อแม่บุญธรรม

เรนี อลานโก (Renee Alanko) ยังจำวันที่เธอถูกทอดทิ้งในตลาดแห่งหนึ่งในกรุงโซลโดยพ่อผู้ให้กำเนิด ซึ่งในเวลานั้นเธอเป็นเพียงเด็กผู้หญิงอายุ 4 ขวบเท่านั้น บนโลกใบนี้ที่มีกว้างใหญ่มาก แต่ที่น่าอัศจรรย์ใจก็คือ พี่น้องทั้งสองกลับถูกพ่อแม่บุญธรรมชาวอเมริกันรับเลี้ยงเหมือนกัน และในตอนนั้นเองก็ทำให้ทั้งสองต้องแยกจากไปกันคนละที่ แม้ว่าจะอยู่ในประเทศเดียวกันก็ตาม


สมัยที่ทั้งคู่เด็กๆ และต้องแยกจากกัน

ทั้งคู่ต้องพลัดพรากจากกันนานกว่า 34 ปี  ทั้งคู่ได้เปลี่ยนชื่อใหม่โดยพ่อแม่บุญธรรม พี่สาวเรนี อลานโก  (Renee Alanko) ส่วนน้องชายชื่อ จัสติน คราท์ (Justin Kragt) พ่อแม่บุญธรรมของเรนีบอกว่า ในช่วงแรกที่เธอเพิ่งย้ายเข้ามาก็พูดเสมอว่าตนเองมีน้องชายอีกคนหนึ่งตลอดเวลา และบอกว่า ตนเองรักน้องชายมาก เมื่อโตขึ้นพ่อแม่บุญธรรมจึงลองตามหาดู ไม่แน่ว่าเขาอาจยังมีชีวิตอยู่ ด้วยการสนับสนุนของพ่อแม่บุญธรรม ทำให้เรนีตัดสินใจเขียนจดหมายถึงมูลนิธิเด็กกำพร้าทั่วประเทศ นับโดยคราวๆแล้ว เธอได้เขียนจดหมายมากถึง 200 ฉบับเพื่อตามหาน้องชาย


ตอนแรกน้องชายลืมว่าเคยมีพี่สาว เพราะมันนานมาแล้ว

แม้ว่าจะไม่มีวี่แววของน้องชายเลย แต่เธอก็ไม่เคยท้อแท้ ยืนหยัดตามหาต่อไป กระทั่งสุดท้ายเธอจึงขอความช่วยเหลือจากบริษัทแห่งหนึ่งซึ่งเป็นบริษัทเปรียบเทียบ DNA ในตอนแรกเธอคิดว่าคงหมดหวัง แต่ผ่านไปไม่กี่เดือน เรนีก็ได้รับแจ้งจากบริษัทว่า มีผู้ชายคนหนึ่งที่ชื่อ Justin Kragt มี DNA ที่ตรงกับเรนีมากและมีความสัมพันธ์ทางสายเลือด 
ในที่สุดพี่น้องก็พบกัน

ที่แท้เนื่องจากน้องชาย Justin Kragt หลังจากที่ถูกพ่อทอดทิ้งตอนอายุได้ 2 ขวบก็ป่วยเป็นโรคหัวใจ พอเติบโตก็ลืมว่าเคยมีพี่สาว และพออายุได้ 4 ขวบเคยรับการผ่าตัดหัวใจ จึงมีประวัติเกี่ยวกับเลือดและ DNA ทำให้ บริษัทแห่งนี้สามารถค้นพบเขาด้วยการเปรียบเทียบDNAของเรนีจนสำเร็จ


ทันทีที่พวกเขาพบหน้าเรนีก็วิ่งไปเข้ากอดด้วยความคิดถึง

หลังจากนั้นบริษัทก็ได้นัดทั้งสองมาพบเจอกัน  ทันทีที่พวกเขาพบหน้าเรนีก็วิ่งไปเข้ากอดด้วยความคิดถึงสุดหัวใจพร้อมน้ำตาไหลด้วยความปราบปลื้มยินดีที่สุด ภายหลังทราบว่าทั้งสองอาศัยอยู่ในบ้านที่ห่างจากันเพียง 970 กิโลเมตรเท่านั้น