ให้ไวเราชนะ 4 กลุ่ม รับรวดเดียว 7 พัน เงินเข้าวันไหนเช็กเลย

เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ชาวโซเชียลต่างติดตามและต้องบอกว่าให้ไวกันเลยสำหรับมาตรการเยียวย า เราชนะ ดำเนินการต่อเนื่อง โดยรัฐบาลสนับสนุนวงเงินช่วยเหลือค่าครองชีพ สูงสุด 7,000 บาท ซึ่งยอดมูลค่าใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 130,207 ล้านบาท หรือ 1.3 แสนล้านบาท ซึ่งระยะเวลาโครงการดำเนินการถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 โดยโอนเงินให้ผู้ได้รับสิทธิ์ทุกสัปดาห์ และสะสมสิทธิใช้จ่ายถึงสิ้นสุดโครงการ

ความคืบหน้า กรณีการประกาศผลการทบทวนสิทธิ์โครงการเราชนะ สำหรับประชาชนที่ไม่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติของโครงการเราชนะ เนื่องจากเงินได้พึงประเมินปีภาษี 2562 เกินกว่าเกณฑ์ที่กำหนดนั้น กระทรวงการคลังได้เปิดให้ประชาชนกลุ่มดังกล่าวสามารถทบทวนสิทธิ์ทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ระหว่างวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 8 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา

โดยประชาชนกลุ่มดังกล่าว ที่แสดงความประสงค์ขอทบทวนสิทธิ์ผ่านปุ่ม ทบทวนสิทธิ ในเว็บไซต์ข้างต้น ต้องดำเนินการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของปีภาษี 2563 ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตของกรมสรรพากรภายใน 7 วันนับแต่วันที่ยื่นขอทบทวนสิทธิ์ แต่ไม่เกินวันที่ 8 มีนาคม 2564 ทั้งนี้ ประชาชนกลุ่มดังกล่าวสามารถทราบผลการพิจารณาการขอทบทวนสิทธิ์ในกรณีดังกล่าวได้ตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม 2564 เป็นต้นไป

กรณี ประชาชนที่ขอทบทวนสิทธิ์ระหว่างวันที่ 22 กุมภาพันธ์ – 8 มีนาคม 2564 และผ่านการคัดกรองคุณสมบัติจะได้รับการโอนวงเงินสิทธิ์ จำนวน 7,000 บาท และสามารถเริ่มใช้จ่ายได้ในวันที่ 25 มีนาคม 2564 ผ่านแอปพลิเคชัน เป๋าตัง กับผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2564

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผย ความคืบหน้าของโครงการเราชนะ ยอดสรุปเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2564 ดังนี้

1) ประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.7 ล้านคน ได้มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 51,365 ล้านบาท

2) ประชาชนกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน เป๋าตัง ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่ง และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นและยืนยันการใช้สิทธิ์ร่วมโครงการฯ แล้ว จำนวน 16.7 ล้านคน และมีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 75,709 ล้านบาท

3) ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้ว จำนวน 2.0 ล้านคน มียอดใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2564 เป็นต้นมา จำนวน 3,133 ล้านบาท ทำให้มีผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการฯ แล้ว รวมทั้งสิ้นจำนวน 32.4 ล้านคน

4) คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 130,207 ล้านบาท ซึ่งเป็นการใช้จ่ายผ่านผู้ประกอบการร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีแอปพลิเคชัน ถุงเงิน ร้านค้าคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการฯ รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ จำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 1.2 ล้านกิจการ

อย่างไรก็ตาม ขอให้ได้สิทธิกันทุกคน