เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ชาวโซฌชียลต่างติดตามและต้องบอกว่า หลังจาก cvd 19 รอบที่ 2ที่ผ่านมาทำให้ หลายๆคน ได้รับความลำบากกันหลายด้านในการดำรงชีวิต ทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายส่นตัว และรอบด้าน
ซึ่ง ไม่ว่าจะเป็นอาชีพเกษตรกร หรือ พ่อค้าแม่ค้า ลูกจ้างช่วคราว และ ประจำ ล่วนแล้วมีปัญหาด้านค่าใช้จ่ายตต่างๆกันหมด เพราะบางบริษัทบางกิจการ ได้รับผลกระทบถึงขนาดหยุดชั่วคราวหรือถาวร ยิ่งเกียวกับการท่องเที่ยยิ่งซบเซา
แต่ว่า เมื่อฝนตกหนักหลังฝนหยุด เราจะเห็นสายรุ่ง ทั่งนี่นในช่วงที่ประเทศไทยกำลังจะเปฺิดประเทศเต็มกำลัง ในส่วของการช่วงเหลือของทางรัฐบาลนั้ มาถูกทางมากเพราะ ตรงนี้ เน้น ฟื่นฟูการท่องเดียวโดยเร็ว เพื่อให้ประเทศไทยกลับมาเป็น สยามเมืองยิ่งอีกครั้งนั้ นถือว่าถูกต้อง
ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือที่ทำเนียบรัฐบาล วานนี้ (22 มี.ค.) เพื่อประเมินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยมีผู้เข้าร่วม คือ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี
และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ได้รายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบผลของการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งมาตรการภาครัฐช่วงที่ผ่านมาเพิ่มการหมุนเวียนของเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจ โดยเฉพาะหมุนเวียนผ่านร้านค้าได้ดี โดยภาพรวมของเศรษฐกิจมีความเชื่อมั่นฟื้นขึ้นตั้งแต่ทยอยฉีดวัคซีน
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีสั่งการให้หน่วยงานเศรษฐกิจพิจารณาต่ออายุมาตรการที่จะช่วยการบริโภคและการท่องเที่ยวในประเทศในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อให้ต่อเนื่องจากช่วงมาตรการที่จะหมดอายุ ซึ่งมาตรการที่คาดว่าจะต่ออายุได้แน่นอน คือ มาตรการคนละครึ่ง มาตรการเราเที่ยวด้วยกัน
ซึ่งทั้ง 2 โครงการจะต่ออายุในเฟสที่ 3 โดยโครงการคนละครึ่งต่ออายุได้เพราะใช้เงินไม่มาก และจะใช้ได้ช่วงเดือน มิ.ย.นี้
ส่วนมาตรการเราเที่ยวด้วยกันระยะที่ 3 จะเสนอศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของ cv19 (ศบศ.) วันที่ 26 มี.ค.2564 ดึงคนมีเงินเพิ่มการจับจ่าย
นอกจากนี้ได้รายงานนายกรัฐมนตรีว่า ช่วงที่ผ่านมามีเงินฝากในระบบมากขึ้น ซึ่งเป็นทิศทางเดียวกันกับหลายประเทศ เช่น สหรัฐ ญี่ปุ่น ซึ่งแนวทางที่ภาครัฐเคยดำเนินการไปก่อนหน้านี้ คือ การออกมาตรการช็อปดีมีคืน แต่มาตรการที่ออกมาใหม่จะไม่ได้คิดในเรื่องของฐานภาษีหรือระยะเวลาของการยื่นภาษีเป็นหลัก ซึ่งขอให้รอดูว่าจะออกมาลักษณะใด แต่ได้ฝากให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังนำไปหามาตรการเพิ่มเติมในการจูงใจให้ผู้นำเงินออกมาใช้จ่ายเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีได้สอบถามถึงมาตรการเราผูกพัน ซึ่งเป็นมาตรการช่วยเหลือข้าราชการที่มีรายได้น้อย 1 ล้านคน ซึ่งกลุ่มนี้ถือว่าเป็นกลุ่มที่รัฐบาลต้องดูแลเช่นกัน เพราะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบในช่วงสถานการณ์ cv 19 แม้จะไม่ถูกหักเงินเดือน
นายกรัฐมนตรีเป็นห่วงเศรษฐกิจ ต้องการให้ออกมาตรการเยียวยาและดูแลให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม และต้องการเห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรมจึงอยากให้เสนอมาตรการเป็นแพคเกจที่ครอบคลุมหลายเรื่อง มาตรการที่จะออกมาในช่วงครึ่งหลังของปีก็เป็นมาตรการที่ใช้แล้วได้ผล แต่ต้องดูระยะเวลาว่าแต่ละช่วงใดจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจอย่างไร
ส่วนการติดตามเรื่องของสถานการณ์การผิดชำระหนี้ของผู้ประกอบการรายย่อยและสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีการปรับโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงินทั้ง 21 แห่ง นายกรัฐมนตรีได้สอบถามเรื่องนี้เช่นกันและขอให้รายงานความคืบหน้ากลับมาให้ทราบอีกครั้ง