อาการออกชัดเจน สีหน้าน้าเสริม

ยังคงได้รับการติดตามอย่างต่อเนื่องจากกรณีความคืบหน้าจากกรณีของน้องชมพู่ วันที่ 21 ส.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งผ่านมาแล้ว 102 วัน ทางด้านเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่สามารถคลี่คลายบทสรุปได้ได้

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว

ขณะที่นายเสริม สุขพันธ์ น้าของน้องชมพู่ ให้ข้อมูลว่า ในวันที่ 11 พ.ค.63 ที่น้องชมพู่หายไป ตนไปหาหมอธรรมแน่นที่อำเภอเต่างอย จังหวัดสกลนคร เพราะตนไปหาแถวบ้านและห้องน้ำ รอบ ๆ สวนยาง รอบบ้านกกกอก หาหมดแล้วแต่ไม่เจอ และเนื่องจากชาวบ้านแนะนำ รวมถึงครอบครัวเองก็ยังมีความเชื่อในเรื่องนี้ แม้ตนจะไม่เชื่อก็ตาม แต่ต้องพาไป

นายเสริม ให้ข้อมูลอีกว่า จุดที่จอดรถไม่ตรงกับจุดที่น้องชมพู่ เพราะตนจอดรถที่ฝั่งซ้ายของบ้าน แต่จุดที่หายนั้นอยู่ฝั่งขวา อีกทั้งกล้องหน้าและหลังรถไม่ทำงาน นอกจากจะมีอะไร ก ร ะ แ ท ก รถถึงจะทำงาน อีกอย่างหันรถเข้าข้างใน ส่วนที่มีข่าวจะออกหมายจับ อักษร ส. ว่า ตนไม่กังวล เพราะตำรวจตรวจเช็กตนได้ทุกอย่าง และตนก็ให้ความร่วมมือตลอด

ข้อมูลการใช้รถกระบะของน้าเสริม วันที่ 11 พ.ค.63 เวลาประมาณ 11.00 น. ไปหาหมอธรรมสกลนคร แต่จำไม่ได้ว่ากลับมาตอนกี่โมง จากนั้น 13.00 น. ไปหาพระอาจารย์ลาย ครูบาลาย สำนักสงฆ์ในพื้นที่บ้านนาโคกกุง อ.ดงหลวง ถามเรื่องน้องชมพู่ และกลับมาบ้านช่วง 14.00 น. ส่วนรอบที่ 2 ช่วงเวลา 16.00 น. ได้เดินทางไปรับครูบาลายอีกครั้งมาที่หมู่บ้านในการตามหาน้องชมพู่ ส่วนช่วงวันที่ 12-13 พ.ค.63 จำไม่ได้ วันที่ 14 พ.ค.63 ช่วงเช้าจำเวลาไม่ได้ เดินทางไปจังหวัดนครพนม ไปบนบานที่วัด ที่บ้านหนองอีกอม ให้พระดูว่าจะเจอน้องชมพู่เมื่อไร ขอให้เจอตัวเด็กไม่ว่าจะสภาพไหนก็ได้ ไม่มั่นใจเรื่องเวลากลับ

ด้าน นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ ป้าแต๋นของของชมพู่ กล่าวว่า ตนคิดว่ากล้องของรถน้าเสริม หากมีกล้องหน้า กล้องหลัง หรือกล้องใดกล้องหนึ่ง หากวันแรกๆ มีการเอาไปตรวจ ตนคิดว่าอาจจะเห็นใครผ่านไปผ่านมาหรือไม่

ส่วนตัวไม่คิดว่าเวลาผ่านมานานขนาดนี้แล้วเพิ่งมาเอากล้องไป ความจริงเจ้าหน้าที่น่าจะมาเอาไปตั้งแต่วันแรกๆ ไม่รู้เจ้าหน้าที่เพิ่งนึกออกหรือไม่ ตนไม่รู้ว่าตำรวจจะได้อะไรจากกล้องดังกล่าว แต่สิ่งหนึ่งคิดว่าหากคนร้ายผ่านแถวนั้น อาจจะจับภาพได้ ซึ่งตนก็ไม่ได้สงสัยน้อง อีกอย่างหากคนเราไม่ได้ก่อเหตุก็คือไม่ก่อเหตุส่วนเรื่องนี้ ตนเอามาเปรียบเทียบกับบ้านตน ซึ่งเจ้าหน้าที่เข้ามาเอาทรัพย์สิน ค้นรถ เอาหลักฐานทุกอย่างไปแล้ว ซึ่งความไม่เท่าเทียมมันมีตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว

ขณะที่ นายเสริม ยังได้ตอบข้อสงสัยในประเด็นที่โซเชียลฯ ตั้งข้อสังเกตเรื่องรอยช้ำบนใบหน้า ซึ่งเจ้าตัวให้ข้อมูลว่า ปมสงสัยดังกล่าวนั้น ไม่มีรอยอะไร เป็นเพียงมุมกล้อง ตนไม่ได้กังวลหรือไม่สบายใจ และตนยืนยันตนพูดความจริง

ขอบคุณที่มา อมรินทร์ทีวี