เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ต้องบอกเลยว่า เป็นเรื่องราวที ชาวโซเชียลต่างติดตาม บอกเลยว่าขาวนี้เป็นมิติใหม่ของวงการวิทยาศาสตย์เลยก็ว่าได้ ล่าสุด วันที่ 26 ตุลาคม 2563 เวลา 23:00 ตามเวลาของประเทศไทย นาซา (NASA) แถลงข่าวกรณีพบน้ำบนดวงจันทร์ โดยกล้องโทรทรรศน์ในช่วงอินฟราเรดไกลบนหอสังเกตการณ์ SOFIA ซึ่งเป็นหอสังเกตการณ์ลอยฟ้าดัดแปลงมาจากเครื่องบินจัมโบ้เจ็ท Boeing 747SP เพื่อบรรทุกกล้องโทรทรรศน์ขนาดมหึมา 2.7 เมตร ทำงานที่ระดับความสูงจากระดับน้ำทะเล 38000 ถึง 45000 ฟุต จึงอยู่สูงกว่าชั้นบรรยากาศที่บดบังแสงในช่วงคลื่นอินฟราเรดไปมากกว่าร้อยละ 99
ดร.มติพล ตั้งมติธรรม ผู้เชี่ยวชาญดาราศ าสตร์ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ เรียบเรียงเนื้อหาการแถลงข่าวของนาซา สรุปได้ว่า ก่อนหน้านี้เคยพบน้ำในหลุมอุกกาบาตบนดวงจันทร์ ที่ไม่มีแสงแดดส่องถึง แต่ยังไม่มีหลักฐาน นอกจากบริเวณหลุมอุกกาบาตที่มืดมิดเหล่านั้น แต่การศึกษาของ SOFIA ล่าสุดทำให้ค้นพบสเปกตรัมการดูดกลืนที่เป็นลักษณะเฉพาะของโมเลกุลของน้ำ ซึ่งเป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่า แม้บนพื้นผิวด้านสว่างของดวงจันทร์ที่ถูกส่องสว่าง โดยแสงอันแรงจ้าจากดวงอาทิตย์ ก็สามารถพบน้ำได้เช่นเดียวกัน
แต่เดิมเราไม่คาดกันว่าจะมีน้ำหลงเหลืออยู่บนพื้นผิวของดวงจันทร์ด้านที่แสงแดดส่องถึง แต่การค้นพบนี้ ยืนยันว่าไม่เพียงแต่สามารถค้นพบน้ำบนดวงจันทร์ได้เท่านั้น แต่ยังค้นพบว่าบนดวงจันทร์มีน้ำมากถึง 100 – 412 PPM (PPM : Parts-Per-Million หมายถึง 1 ส่วนใน 1 ล้านส่วน) ซึ่งเทียบเท่ากับน้ำหนึ่งขวด ต่อดินดวงจันทร์ทุกๆ หนึ่งลูกบาศก์เมตร
การค้นพบนี้ทำให้ทราบว่าดวงจันทร์มีน้ำมากกว่าที่คาดคิดเอาไว้ ถือว่ามีประโยชน์มากเกี่ยวกับโครงก ารการส่งมนุษย์ไปยังดวงจันทร์ในอนาคต และมีความคิดที่จะสร้างฐานบนดวงจันทร์ หากบนดวงจันทร์มีน้ำในปริมาณที่มากพอ ก็หมายความว่า ดวงจันทร์อาจเป็นจุดหมายสำคัญของโครงการสำรวจอวกาศในอน าค ต ที่อาจจะมาเติมเสบียงในการเดินทางต่อไปยังห้วงอวกาศที่ไกลออกไปได้อีกด้วย
โพสต์ดังกล่าว