เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ชาวเน็ตต่างให้ความสนใจกันเป็นจำนวนมาก ล่ าสุดพล.ต.อ.ศตวรรษ หิรัญบูรณะ ที่ปรึกษาพิเศษ สตช. พร้อมด้วยพล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สมชาย พัชรอินโต ผบช.สำนักงานก ฎ ห ม ายและค ดี แถลงผลการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็ จจริงครั้งที่ 1 โดยยอมรับว่า ความเห็นไม่แย้ งคำสั่งของอัยการในคดีถือว่าค ดีสิ้นสุดแล้วไม่สามารถแก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงความเห็นได้อีก
ส่วนการพิจารณาความเห็นที่อัยการส่งมานั้นเป็นการพิจารณาความถูกต้องในข้อก ฎห มาย และดูข้อเท็ จจริง ทางตำรวจไม่มีอำนาจตรวจสอบความเห็นของอัยการหรือขอให้อัยการอธิบายเหตุผลของการสั่งค ดีได้ เพราะเป็นการถ่ว งดุลอำนาจในกระบวนการยุ ติธร รม
โดยคณะกรรมการชุดนี้ จะทำหน้าที่สืบหาข้อเท็ จจริงว่า การใช้ดุลพินิจของพล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ แต่ไม่มีอำนาจหน้าที่ที่จะรื้อฟื้นหรือสืบสวนเพิ่มเติม เพราะคดีผ่านชั้นสืบสวนของตำรวจมาแล้ว โดยจะกำหนดกรอบการทำงาน 3 ประเด็น คือ 1.การสอบสวนและความเห็นชั้นพนักงานสอบสวน 2.การสอบสวนเพิ่มเติมตามคำสั่งพนักงานอัยการ 3.การดำเนินการพิจารณาความเห็นตามป.วิอาญามาตรา 145/1 โดยจะพิจารณาการดำเนินการของตำรวจที่รับผิ ดชอบตั้งแต่เริ่มต้นกระบวนการว่าได้ดำเนินการถูกต้อง ตาม ระเบี ยบหรือไม่
ภาพจาก สปริงนิวส์
ด้าน พล.ต.ท.จารุวัฒน์ กล่าวอีกว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็ จจริงหากการตรวจสอบพบว่ามีการกระทำความผิ ดแบ่งเป็น 2 ลักษณะ
1.การกระทำความผิ ดที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
2.การกระทำความผิ ดด้านวินัย ซึ่งทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด ให้เสนอท่านว่าใครกระทำความผิ ดบ้าง ด้านอ ๅญ ๅก็ให้ส่งทางป.ป.ช. ส่วนทางวินัยก็ให้ลงทัณฑ์ทันที
ด้าน พล.ต.ท.จารุวัฒน์ กล่าวอีกว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็ จจริงหากการตรวจสอบพบว่ามีการกระทำความผิ ดแบ่งเป็น 2 ลักษณะ
1.การกระทำความผิ ดที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
2.การกระทำความผิ ดด้านวินัย ซึ่งทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด ให้เสนอท่านว่าใครกระทำความผิ ดบ้าง ด้านอ ๅ ญ ๅ ก็ให้ส่งทางป.ป.ช. ส่วนทางวินัยก็ให้ลงทั ณฑ์ทันที
ขอบคุณ สปริงนิวส์